CKP หรือ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ โดยเป็นธุรกิจที่แยกมาจาก กลุ่ม CK หรือ ช. การช่าง
CKP ประกอบธุรกิจถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้า จากพลังงานน้ำ แสงอาทิตย์ และความร้อน มีรายได้มาจากเงินปันผลที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น
กำลังผลิตไฟฟ้าปัจจุบันอยู่ที่ 874.5 MW
แบ่งเป็น Solar 22.0 MW , Hydro 615.0 MW, Cogeneration 237.5 MW
รายชื่อบริษัทที่เข้าไปถือหุ้นอยู่มีดังนี้
- บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการเขื่อนพลังงานไฟฟ้า CKP ถือหุ้น 56%
- บริษัท บางเขนชัย จำกัดบริษัท CKP ถือหุ้น 100%
- นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด CKP ถือหุ้น 30%
- บริษัท เชียงราย โซล่าร์ จำกัด CKP ถือหุ้น 30%
- บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน CKP ถือหุ้น 56%
ประเด็นที่น่าสนใจ
- รายได้หลักของบริษัทจะเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานน้ำ (เขื่อน) ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเหนือเขื่อน
- เมื่อไปดูงบการเงินของบริษัทจะเห็นว่าหนี้สินไม่หมุนเวียนสูงมากนั้นอาจเป็นเพราะ มีการลงทุนในโครงการอนาคต
- เนื่องจากมีหนี้สินไม่หมุนเวียนสูง จึงไม่ได้จ่ายปันผล
โครงการในอนาคต
1. บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (โครงการ 2) ก่อตั้ง | ปี พ.ศ. 2554 |
---|---|
ผู้ถือหุ้น | CKP 65% PTT 25% Other 10% |
เทคโนโลยี | โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติแบบโคเจนเนอเรชั่น |
กำลังการผลิต | 120 MW |
กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น | 78 MW |
สัญญาซื้อขายไฟฟ้า | การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) |
ระยะเวลา | 25 ปี จากวันเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ |
ที่ตั้ง | อ. บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา |
วันเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ | มิถุนายน 2560 |
ทุนจดทะเบียน | 1,370 ล้านบาท |
2. โครงการน้ำบาก
- กำลังการผลิต 160 MW
- จัดตั้งเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553
- ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง ตั้งอยู่แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ห่างจากเมืองหลวงพระบาง 80 กิโลเมตร
- โรงผลิตไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเป็นแบบฝายทดน้ำ (Run-of-River) บนแม่น้ำโขง
- กำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์
- โดยเริ่มงานก่อสร้างในวันที่ 15 มีนาคม 2555
- ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 8 ปี
- มูลค่างาน 51,824,640,000 บาทและ 711,040,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- คาดว่าจะเริ่มดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 2562
- กฟผ.ตกลงรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีจำนวน 1,220 เมกะวัตต์ ในราคาค่าไฟเฉลี่ย (Levelized tariff) เท่ากับ 2.519 บาทต่อหน่วย
อัพเดตข้อมูลล่าสุด 13 มีนา 57