ความหมายของหุ้นแบบบ้านๆ คือ หุ้นส่วนหรือส่วนในการเป็นเจ้าของกิจการ ขอยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่เราต้องการทำธุรกิจร้านกาแฟ แต่เรามีเงินไม่พอ เราก็ต้องหาหุ้นส่วน เพื่อเอามาระดมทุน ใครเอาเงินมาลงทุนมาก ก็ได้ผลตอบแทนกลับคืนมามาก ตามจำนวนเงินที่ได้ลงขันกันไว้ ความหมายของหุ้นในตลาดหุ้นก็เช่นเดียวกัน แต่ต่างกันที่ สิทธิในการเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วน จะทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยตลาดหลักทรัพย์จะทำหน้าที่ตรวจสอบกำกับดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ให้เป็นไปอย่างเป็นธรรม
บริษัทที่ต้องการระดมทุน ก็จะต้องมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเอาหุ้นเข้าตลาด ออกขายให้ประชาชาชนทั่วไปในตลาดครั้งแรกเรียกว่า IPO หลังจากนั้นบริษัทก็ได้จำนวนเงินเพื่อไปลงทุนขยายกิจการ เช่น จัดซื้อวัตถุดิบ หรือชำระหนี้ก็แล้วแต่เมื่อได้กำไร ก็จ่ายคืนผู้ถือหุ้นเป็นเงินปันผล ถ้าผู้ถือหุ้นไม่ต้องการลงทุนต่อ ก็ขายหุ้นเพื่อเอากำไรส่วนต่าง
ประชนชนที่ต้องการจะซื้อหุ้น ก็ต้องมาเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ ซึ่งจะทำการซื้อขายด้วยคอมพิวเตอร์ โดยมี Username และ Password เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปทำการซื้อขายได้ด้วยตนเอง โดยจะมีเมนูให้เลือก จำนวนหุ้นและราคาที่ต้องการจะทำการซื้อขาย
ลงทุนในหุ้นมีดีอย่างไร
- ได้ปันผลมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร โดยปกติเงินฝากได้แค่ 0.75 % สูงสุดก็ได้แค่ 3% แถมต้องมาเสีย ค่าบัตร ATM ปีละ 200 บาท แต่หุ้นได้ปันผลเฉลี่ย 1-5% ถ้าซื้อกองทุนหุ้นก็ได้ถึง 7-8%
- สร้างความมั่งคั่งได้อย่างรวดเร็ว จากการได้กำไรส่วนต่างและเงินปันผล สมมุติว่าเราซื้อหุ้นเซเว่น ตอนระดมทุนครั้งแรกมี 10 สาขา ปีต่อมากิจการขยายเป็น 20 สาขา และปีต่อมาขยายสาขาเป็น 40 สาขา ลองคิดดู เราลงทุนแค่ครั้งแรก แต่มีผลกำไรเติบโตขึ้นเรื่อยๆ บริษัทย่อมจ่ายปันผลมาก ตราบใดที่เรายังถือหุ้นอยู่ บริษัทก็ยังจ่ายปันผลให้เรา แถมยังสามารถขายหุ้นในราคาที่สูงอีกด้วย
- เป็นการให้เงินทำงานไม่ต้องเสียเวลาบริหารเอง
- ใช้เงินลงทุนน้อยแต่สามารถเป็นหุ้นส่วนบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ อย่างเช่น ถ้าเราอยากเป็นเจ้าของห้างเซ็นทรัล เราก็ไปซื้อหุ้น CPN โดยขั้นต่ำของการซื้อหุ้นแต่ละครั้งคือ 100 หุ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น